หลังจากถูกรัฐบาลสหรัฐฯจัดให้อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง เป็นภัยคุกคามความมั่นคงประเทศ Huawei ก็เริ่มมองหาแผนสำรองเพื่อรองรับในกรณีที่ถูกห้ามไม่ให้ใช้ Android ของ Google ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ถูกห้ามทำการค้ากับหัวเว่ย โดยหนึ่งในแผนสำรองคือ HarmonyOS ที่เพิ่งเผิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ยังดูเหมือนว่า HarmonyOS จะยังไม่มีทีท่าว่าจะพร้อมลงอุปกรณ์ใดๆของหัวเว่ยในเร็วๆนี้
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์มีรายงานว่า Huawei
กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของรัสเซีย เพื่อใช้ Aurora OS ของรัสเซีย ในแท็ปเล็ตของหัวเว่ย โดยมีเป้าที่ 360,000 ในปี 2020. AuroraOS มีเจ้าของคือ Rostelecom บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของรัสเซีย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าปลื้มใจในความโชคร้ายอีกหลายเรื่อง ได้แก่ มีผู้ใหญ่ใจดี ซื้อรถจักรยานให้แม่ขับไว้ไปทำงาน สั่งสินค้าเป็นข้าวสารอาหารแห้ง จัดส่งให้ไปยังที่พักของน้องๆเพื่อเป็นการบรรเทาค่าใช้จ่าย ช่วยออกเงินซื้อหม้อหุงข้าวใบใหม่เนื่องจากที่มีอยู่มันพังแล้ว
ส่วนลูกทั้ง 2 คนปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นป.3 และป.4 รร.วัดไผ่ตัน ทาง ผอ.โรงเรียงวัดไผ่ตัน ท่านทราบถึงปัญหานี้และได้ดำเนินการดูแลมาโดยตลอด อีกทั้งยังแจ้งว่าเด็กทั้ง2ได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการศึกษาครบถ้วน แต่ปัญหาคือเด็กๆเรียนในชั้นเรียนที่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอายุน้อยกว่าตนจึงมีปัญหาในการเรียนในห้องเรียน ซึ่งทางท่าน ผอ.แจ้งว่าจะประคับประคองเด็กไปจนถึงที่สุดและหากมีความจำเป็นหรือเด็กต้องการศึกษาในระบบนอกโรงเรียนก็จะได้ติดต่อกับ กศน. ให้เด็กต่อไป
.สุดท้าย แม่กลับเข้าสู่อ้อมกอดลูก ไม่ต้องถูกคุมขัง และมีพี่ใจดีท่านนึงฝากข้อความให้บอกกับน้องๆว่า
“…ไม่ใช่เพราะแม่ไปหยิบของคนอื่นมาแล้วได้รับผลตอบแทนแบบนี้นะคะ ที่ทุกคนช่วยกัน เพราะอยากให้เด็กๆเป็นอนาคตที่ดีของสังคม นี่ไม่ใช่การตอบแทนที่ไปทำผิด แต่เราควรช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน ที่ช่วยนี่เพราะเคยลำบากยากจนมาก่อน เคยเพราะไม่มีเงินตอนเด็กๆ แต่เพราะมีโอกาสได้เรียน ได้ทำงานที่ดี ได้สังคมดีๆ เลยมีโอกาสช่วยคนอื่น…”
ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสครอบครัวนี้ กลับสู่สังคม
“ผมมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ครอบครัวนี้ครอบครัวเดียวแต่ยังมีอีกเป็นร้อยๆครอบครัวที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการเข้าถึงปัจจัย4ที่ไม่เท่ากัน ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งบีบคั้นที่ทำให้คนก่ออาชญากรรม ซึ่งก็ต้องมองเป็นกรณีๆไป แต่กรณีนี้จากการเป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบๆ 2 ปี ถือว่าสะท้อนสังคมได้มากที่สุด” นายตำรวจท่านนี้กล่าว
“บริษัท บิทคอยน์(Bx)” ยุติการให้ซื้อขาย เทรดดิ้ง 1 ตุลาคมนี้
ก.ล.ต. ตั้งศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจ เพื่อดูแลผู้ลงทุนกรณี บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขาย, แลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รายงาน ตามที่บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) ประกาศ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา 6.06 น. ว่า
“บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ได้ตัดสินใจยุติบทบาทการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) เนื่องจากบริษัทฯได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่น ๆ แทนการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ดังนั้นภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขาย, แลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) ผ่านเว็บไซต์ BX.in.th ได้อีกต่อไป แต่ลูกค้ายังคงทำคำสั่งถอนได้ตามปกติ… ” ดูรายละเอียดได้ที่ https://bx.in.th/
ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ลงทุน จึงได้ตั้ง “ศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจ” เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการถอน การรับโอนคืน หรือโอนย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว โดยสามารถติดต่อได้ที่ Help Center ของ ก.ล.ต. ได้ที่ 1207 กด 7 หรืออีเมล info@sec.or.th 24ชั่วโมง 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา 6.45 น. เป็นต้นไป
สื่อต่างประเทศรายงานว่า iPhones, iPads, และ MacBooks ต้องเผชิญหน้ากับภาษี 15% ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นอย่าง คอมพิวเตอร์ Macs, AirPods, Watch,และอื่นๆ อาจถูกเพิ่มภาษีสูงจาก 25% เป็น 30% เริ่ม 1 กันยายนนี้ ผลพวงหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์ทวิตเตอร์ขู่จีนเรื่องนี้ จนกระทั่งมันเกิดขึ้นจริง ซึ่งในระยะใกล้อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ด้วยราคาที่จะเพิ่มขึ้นตามมา(ในสหรัฐฯ)
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ Tim Cook CEO ของ Apple จะได้มีการเข้าพบปรึกษากับประธานาธิบดีทรัมป์ เกี่ยวกับเรื่องขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าจากจีน แต่ดูเหมือนว่าบทสนทนาดังกล่าวจะถูกลืมไปซะงั้น แน่นอนในฐานะผู้บริโภค บ้านเราอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องของราคาเท่าไหร่ เพราะเป็นภาษีเฉพาะในประเทศ เว้นแต่ว่า Apple จะเพิ่มราคาต้นทุนส่งออกจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่นๆ
ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวแคนาดา ได้เริ่มการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ อีกหนึ่งวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งในสัปดาห์หน้าประเทศแคนาดาจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์อีกกว่า 2 แสนโดสในสัปดาห์หน้า
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป